รีวิวการสอบโทอิค 2020 (ผลคะแนนสอบ 945/990)
(เข้าสอบเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563)
วันนี้ทีชเชอร์จะมารีวิวตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนเข้าห้องสอบ ไปถึง พาร์ทการฟังกันนะคะ
>> รอบของการสอบโทอิคแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้า 09.00 และ รอบบ่าย 13.00 ถ้าเป็นรอบเช้า เราต้องไปถึงตึก BB building ( ติดตึกแกรมมี่ ) ชั้น 19 ซึ่งผู้สอบควรไปถึงล่วงหน้าประมาณ 1 ชม. ก่อนที่จะถึงเวลาเข้าห้องสอบ ถ้าเป็นรอบเช้าก็ประมาณ 8 โมงเช้า / สำหรับรอบบ่ายก็ประมาณ 11.30 เพื่อลงทะเบียนถ่ายภาพและจ่ายค่าสอบ 1,800 บาท ด้วยตนเอง ซึ่งเอกสารที่สำคัญที่สุดที่ห้ามลืมเลยวันนั้นคือ “บัตรประชาชน” นะคะ
>> แนะนำให้ผู้เข้าสอบทุกคน พกขวดน้ำเล็กๆ ติดกระเป๋าไปด้วยนะคะ จิบน้ำช่วงระหว่างการต่อแถวลงทะเบียน ไม่ให้ร่างกายรู้สึกกระหายจนเกินไป เพราะเราต้องใช้เวลาในห้องสอบเกือบ 3 ชม. เลยนะคะ ถ้าร่างกายขาดน้ำเป็นระยะเวลานานมากๆ เราจะรู้สึกกระหายและเพลียได้ค่ะ
ซึ่งจากประสบการณ์ล่าสุดที่ทีชเชอร์ไปสอบมา ด้วยความที่นึกถึงแต่ว่าจะไปลงทะเบียนให้เรียบร้อยก่อน เลยลืมพกขวดน้ำไป กว่าจะต่อแถวลงทะเบียนถ่ายภาพเสร็จก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชม. พอรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาต้องลงลิฟท์จากชั้น 19 ลงมาชั้น 1 เพื่อซื้อน้ำดื่ม และกว่าจะรอคิวขึ้นลิฟท์ขึ้นไปชั้น 19 อีกครั้ง เกือบเข้าห้องสอบไม่ทันเลยค่ะ แถมไม่ได้เข้าห้องน้ำก่อนสอบอีกด้วย รอบนี้ได้นั่งกลั้นปัสสาวะ ก่อนที่จะหมดเวลาทำข้อสอบกันเลยทีเดียว
>> หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะให้เรานำสัมภาระไปวางไว้บนชั้นวาง จากนั้นผู้สอบก็จะพอมีเวลาเข้าห้องน้ำประมาณ 10-15 นาทีก่อนที่จะต่อแถวเข้าห้องสอบ ซึ่งที่ตึกสอบ BB building จะมีห้องน้ำให้ทุกชั้นนะคะ ทีชเชอร์แนะนำให้ลงมาเข้าห้องน้ำ ชั้น 16,17 จะดีกว่าค่ะ เพราะห้องน้ำชั้น 19 ที่จัดการสอบ มักจะคิวยาวและเกิดปัญหากดชักโครกไม่ลง
>> ผู้เข้าสอบทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่นาฬิกาเข้าห้องสอบนะคะ พกเข้าไปได้แค่กระเป๋าสตางค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะกำชับ ไม่อนุญาตให้ผู้สอบเปิดกระเป๋าสตางค์ ในระหว่างที่อยู่ในห้องสอบเป็นอันเด็ดขาดค่ะ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเราต้องกะเวลาด้วยตัวเองในส่วนของการทำข้อสอบพาร์ทการอ่าน เพราะทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือนเรื่องเวลา ให้เราทราบแค่ 4 ครั้งเท่านั้น คือ 30 นาที ก่อนที่เวลาจะหมด 15 นาที ,5 นาที และสุดท้ายคือ “หมดเวลาสอบ”
มาถึงเรื่องของเนื้อหาของข้อสอบโทอิค : ข้อสอบใหม่ ยากกว่า ข้อสอบเก่าจริงไหม?
พาร์ทการฟัง
รีวิว Part 1 => Photographs : จากเดิม 10 ข้อ ลดลงเหลือแค่ 6 ข้อ
ไม่ยากค่ะ แต่เราต้องฟังดีๆ ว่าตัวเลือกไหน ที่พูดตรงกับภาพมากที่สุด จากที่สอบมาล่าสุด เทปจะหลอกเราด้วยการใช้คำศัพท์ ที่ตรงกับภาพแต่ พอพูดจบประโยคกลับไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกต้องนะคะ เพราะฉะนั้นต้องยึดหลักการ “ฟังให้ครบ….จบให้ชัวร์” คือ ฟังให้จบประโยคก่อนนะคะ ค่อยรีบฝน
>> แวะรีวิว การฝนคำตอบกันนิดนึงนะคะ พยายามอย่าฝนเข้มจนเกินไปนะคะ เพราะเวลาลบจะใช้เวลานาน กว่าจะสะอาด
รีวิว Part 2 : Questions – responses จากเดิม 30 ข้อ ลดมาเหลือ 25 ข้อ
>> ยังคงเอกลักษณ์เดิมค่ะ คือ ไม่มีโจทย์ ไม่มีตัวเลือกให้อ่าน “ฟังอย่างเดียว” ค่ะ แนะนำให้ผู้สอบจินตนาการเหมือน เรากำลังคุยกับเทปอยู่นะคะ พอเทปพูดมาหนึ่งประโยค ให้นึกภาพตาม แล้วเลือกข้อที่เป็นคำตอบที่เราต้องการที่จะตอบกลับเทป ตัวเลือกที่ถูกต้องก็คือ ตัวเลือกที่เราตอบกลับไปแล้ว ฝั่งที่เป็นเทปพูดเค้าเข้าใจเราค่ะ “อย่าลืมนะคะว่า ข้อสอบโทอิค คือ ข้อสอบที่เน้นการสื่อสารเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
>> ทีชเชอร์แนะนำสูตรเด็ดของการทำข้อสอบในส่วนนี้ คือ “ให้ตาเราโฟกัสที่กระดาษคำตอบเท่านั้นค่ะ” หูฟังเทปและ มืออยู่ที่กระดาษคำตอบ ห้ามวอกแวกเด็ดขาดค่ะ ไม่ต้องเงยหน้ามามองนาฬิกา ไม่ต้องมองผู้คุมสอบ มองแต่กระดาษคำตอบเท่านั้นค่ะ ใครกลัวฝนล่นข้อ ให้เอาบัตรประชาชนมากั้นไว้เป็นข้อๆไปนะคะ
>> “ สมาธิ” เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถึงมากที่สุดสำหรับพาร์ทนี้ เพราะเทปรันไปเร็วมากนะคะ !!
>> สิ่งที่ห้ามทำเลยสำหรับการทำข้อสอบพาร์ทนี้คือ “การลบ” เพราะเมื่อไหร่ที่เราลบ เมื่อนั้นเราจะหลุดไปอีกประมาณสองถึงสามข้อเลยค่ะ เทปไม่รอเรานะคะ ดังนั้น ถ้าข้อนั้นเรารู้แล้วว่าฝนผิด ให้ทำเครื่องหมายติ๊กตัวเลือกที่จะแก้ แล้วมาแก้ทีหลังนะคะ หลังจากฟังพาร์ทการฟังจบ ไปถึงข้อ 100 เลยค่ะ จากประสบการณ์ตรงที่พึ่งไปสอบมา ทีชเชอร์ลองลบแก้ดู ปรากฏว่า ข้อถัดไปฟังไม่ทันเลยค่ะ
รีวิว Part 3 : Conversation : จากเดิม 30 ข้อ เพิ่มมาเป็น 39 ข้อ และ จากปกติ มีผู้สนทนาเพียงแค่ 2 คน ปรับใหม่ เพิ่มมาเป็น 3 คน ในบางบทสนทนา
>> ข้อสอบในพาร์ทนี้ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะคะ ให้คิดซะว่า เรากำลังฟังเพื่อนร่วมงานคุยกันอยู่และ หน้าที่ของเราคือ จับประเด็นให้ได้ว่า บทสนทนา นั้นเกี่ยวข้องกับอะไร
>> กฎเหล็กของการทำข้อสอบพาร์ทนี้คือ เราต้องนำหน้าเทป 1 สเต็ป นั่นก็คือ เอาช่วงเวลาที่เทปอ่านคำแนะนำ (direction) มาอ่านทำความเข้าใจ คำถามทั้งสามคำถาม ถ้าเราไม่อ่านจับใจความจากประโยคคำถามก่อน เราจะไม่สามารถเก็บคะแนนในส่วนพาร์ทนี้ได้ดีเลยค่ะ
>> เมื่อถึงเวลาที่เทปรันบทสนทนา ให้เราโฟกัสที่ข้อสอบ ว่าแต่ละข้อประเด็นที่จะเป็นคำตอบที่ถูกต้องคือข้อไหน ซึ่งสเน่ห์ของขอสอบพาร์ทนี้คือ คำพูดที่ตรงกับตัวเลือกนั่นแหละค่ะ คือ ตัวเลือกที่ถูกต้อง ( ไม่เหมือนกันกับ part 2 นะคะ ที่ตัวเลือกที่เป็นเสียงซ้ำมักจะเป็นข้อที่เอามาหลอกเรา )
>> ทีชเชอร์แนะนำให้ผู้สอบ ทำเครื่องหมายติ๊กถูกไว้ที่ตัวเลือกที่ถูกต้อง “อย่าพึ่งฝนนะคะ” ติ๊กไว้ก่อนที่กระดาษคำตอบ จนครบทั้งสามข้อแล้วค่อยฝนทีเดียว เพราะการที่เราฝนไปฟังไป แน่นอนว่าโอกาสที่สมาธิหลุดมีสูงมากค่ะ ตามธรรมชาติแล้วมนุษย์เรา จะทำสิ่งๆหนึ่งออกมาได้ดี ก็ต่อเมื่อเราทำทีละอย่าง จริงไหมคะ?
>> หลังจากที่ฝนคำตอบครบทั้งสามคำถามแล้ว ให้รีบกวาดสายตามาอ่านคำถามล่วงหน้าชุดต่อไปเลยนะคะ
>> สำหรับข้อสอบพาร์ทนี้ ที่เป็นรูปแบบใหม่จะมีภาพประกอบเข้ามาให้ดูด้วยนะคะ เทคนิคในการหาคำตอบของบทสนทนาที่มีภาพคือ ให้เราจับประเด็นจากคำถามก่อนนะคะ และจากนั้นให้เอาตาไปจ้องที่ภาพนั้น แล้วค่อยลงมาติ๊กที่ตัวเลือกค่ะ เพราะkey word ที่จะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง จะมาจากรายละเอียดที่อยู่บนภาพประกอบนะคะ
รีวิว Part 4 : Short talks : พาร์ทนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆค่ะ 30 ข้อ ยังไงก็ยังงั้น ตั้งแต่สมัยข้อสอบเก่า
>> ข้อดีของพาร์ทนี้คือ ผู้พูด พูดคนเดียวค่ะ เหมือนเรานั่งฟังประกาศ ตามสนามบิน หรือ นั่งฟังผลสรุปการประชุม ซึ่ง ทีชเชอร์ไปสอบมาล่าสุด เจอบทพูดเกี่ยวกับเนื้อหาการประชุมเพียบเลยค่ะ ดังนั้น สิ่งสำคัญจึงหนีไม่พ้นการอ่านคำถามก่อนที่เทปจะรันบทพูดนะคะ ให้ผู้สอบใช้เวลาช่วงที่เทปอ่านคำสั่ง (direction) มาเก็บประเด็นจาก คำถามให้เร็วที่สุดนะคะ
** ข้อสอบพาร์ทการฟัง ทั้งหมด 100 ข้อ ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที ซึ่งในวันที่เราสอบจริง เราจะรู้สึกเลยค่ะว่า เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องพร้อมในวันนั้น คือ 1) สมาธิ 2) ทักษะด้านการฟัง : ทีชเชอร์แนะนำให้ฝึกฟังก่อนที่จะมาสอบอย่างต่ำ 5 ชุดนะคะ สำหรับผู้สอบที่ไม่เคยสอบมาก่อนเลย เพื่อให้หูเราคุ้นชินกับสำเนียงและ ที่สำคัญ ทุกครั้งที่ฝึกฟัง อย่าลืมอ่านสคริปหลังจากที่ทำข้อสอบเสร็จนะคะ
นอกจากการคุ้นชินสำเนียงแล้วนั้น การมีคลังคำศัพท์ที่มากพอ ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ .
เนื้อหาของข้อสอบโทอิคในส่วนของการฟัง จะสอบเน้นเนื้อหาไปทางบทสนทนาที่ใช้กันจริงในชีวิตประจำวัน ถ้าเราฝึกฝนมามากพอ คะแนนอย่างต่ำ 600-700 ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมเลยค่ะ ขอให้ผู้สอบทุกๆคนคว้าคะแนนที่ต้องการมาให้ได้กันนะคะ
****** จบการรีวิวการสอบโทอิคพาร์ทการฟัง (listening test) **********
พบกันใหม่กับรีวิว พาร์ทการอ่าน นะคะ
ทีชเชอร์เชื่อเสมอว่าทุกคนทำคะแนนได้ ดั่งที่ใจปรารถนาแน่นอนค่ะ
“ขอแค่อย่าท้อ และอย่าหยุดฝัน”
ด้วยรัก
ทีชเชอร์เจน